นกกระจอก 

"Tree sparrow" 

นกกระจอก จัดเป็นศัตรูทางการเกษตรชนิดนึง เพราะสร้างความเสียหายแบบที่เราคิดไม่ถึงกันเลยครับ ลองทำความรู้จักนกชนิดนี้กันไว้ก่อน เพราะวันนึงนกกระจอกอาจจะสร้างปัญหาให้กับเราได้ ใครใจร้อนก็คลิ๊กอ่านวิธีไล่ได้เลยครับ วิธีไล่นกกระจอก

นกในวงศ์นี้มีขนาดเล็กมากจนถึงขนาดเล็ก ลักษณะภายนอกค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งจะงอยปากยาวปานกลาง, ปลายปากแหลม หรือ ปากสั้นเป็นปากกรวย, หางยาวปานกลางหรือปลายหางแหลม, มน, ตัด หรือ เว้าตื้น อาศัยและหากินตามทุ่งโล่ง, หมู่บ้าน หรือชายแหล่งน้ำ มีทั้งที่หากินตามกิ่งไม้ และบนพื้นดิน กินแมลง, ธัญพืช และเมล็ดของไม้ต้น ลักษณะของรังมีรูปร่างแตกต่างกัน ตั้งแต่แบบง่าย ๆ จนถึงแบบรังแขวน มีการสานวัสดุอย่างละเอียดละออ นกในวงศ์นี้ กำเนิดมาตั้งแต่สมัยไมโอซีน ในยุคเทอร์เชียรี่ หรือประมาณ 25-13 ล้านปีมาแล้ว กระจายพันธุ์ทั่วโลก มีทั้งหมด 5 สกุล ประมาณ 41 ชนิด

นกกระจอก
  • นกกระจอกบ้าน (อังกฤษ: Eurasian Tree Sparrow) เป็นนกเกาะคอนในวงศ์นกกระจอก มีสีน้ำตาลเข้มที่กระหม่อนและหลังคอ แก้มสีขาวมีจุดดำบนแก้มแต่ละข้าง นกกระจอกทั้งสองเพศมีชุดขนคล้ายกัน นกวัยอ่อนมีสีขนจืดกว่านกที่โตเต็มที่ นกชนิดนี้มีการกระจายพันธุ์เกือบทั้งทวีปยูเรเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Tree Sparrow (นกกระจอกต้นไม้) และมันถูกนำไปสู่ที่อื่นๆ รวมถึง สหรัฐอเมริกา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Eurasian Tree Sparrow (นกกระจอกต้นไม้ยูเรเชีย) หรือ German Sparrow (นกกระจอกเยอรมัน) ต่างไปจากนกพื้นเมือง นกกระจอกต้นไม้อเมริกา (American Tree Sparrow) แม้ว่าจะมีหลายชนิดย่อยที่ได้รับการยอมรับ แต่ลักษณะที่ปรากฏของนกแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยตลอดแนวการกระจายพันธุ์ที่กว้างขวาง
  • นกกระจอกบ้านทำรังไม่เป็นระเบียบ ในโพรงธรรมชาติ รูในอาคาร หรือรังขนาดใหญ่ของนกสาลิกาปากดำหรือนกกระสาขาว นกจะวางไข่คราวหนึ่งห้าถึงหกฟอง ไข่จะฟักเป็นตัวภายในสองอาทิตย์ นกกินเมล็ดพืชเป็นอาหารหลัก แต่บางครั้งจะกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นอาหาร โดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพันธุ์ นกกระจอกบ้านเหมือนกับนกขนาดเล็กทั่วไปซึ่งอาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อจากปรสิต โรคภัยไข้เจ็บ และถูกล่าโดยนกล่าเหยื่อ ทำให้โดยทั่วไปมีช่วงชีวิตประมาณสองปี
  • นกกระจอก เป็นนกที่พบได้ทั่วไป ตามป่า ตามบ้านเรือน ถือเป็นนกที่พบมากเมื่อเทียบกับนกชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะนกกระจอกบ้านที่พบเห็นได้ตามบ้านเรือนหรือแหล่งชุมชน โดยมักเรียกรวมนกกระจอกชนิดอื่นว่า นกกระจอก ทั้งนี้ นกกระจอกที่พบในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ
    1. นกกระจอกบ้าน (Tree sparrow, Passer montanus)
    2. นกกระจอกตาล (Passer flaviolus)
    3. นกกระจอกป่าท้องเหลือง (Passer rutilans)
    4. นกกระจอกใหญ่ (Passer domestricus)
  • ลักษณะของนกกระจอก
    นกกระจกมีลักษณะลำตัวตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ มีขนาดความยาวปีกขึ้นอยู่กับขนาดลำตัว รูปร่างปีกมีลักษณะแหลม มีขน primary จำนวน 10 เส้น สีขนมีสีน้ำตาล และปนด้วยสีอื่นๆ เช่น สีเหลือง สีแดง สีดำ และสีเทา จะงอยปากเป็นกรวยแหลมสั้น เหมาะสำหรับการจิก และกะเทาะเมล็ดธัญพืช
  • นกกระจอกบ้าน (Passer montanus)
    นกกระจอกบ้าน เป็นนกกระจอกชนิดหนึ่งที่พบเห็นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะตามบ้านเรือนหรือแหล่งชุมชน รวมถึงแหล่งต้นไม้ใกล้ชุมชน เป็นนกที่ชอบอาศัย หาอาหาร และทำรังใกล้กับแหล่งที่มนุษย์อาศัยจึงเรียกว่า นกกระจอกบ้าน
  • นกกระจอกบ้านมีการกระจายพันธุ์มากในทุกทวีป โดยเฉพาะทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย สำหรับประเทศไทย นกกระจอกบ้านถือเป็นนกประจำถิ่นที่พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในเขตที่มีการตั้งถิ่นฐานชุมชน
  • ลักษณะรูปร่าง
    ลำตัวมีความยาวประมาณ 5.5 นิ้ว ลำตัว และปีกมีลักษณะป้อมสั้น ปลายหางหยักเล็กน้อย ขนที่ปกคลุมลำตัวมีสีดำ บริเวณกระหม่อมมีสีน้ำตาลเข้มทอดยาวไปถึงท้ายทอย บริเวณแก้มมีสีขาว และมีแถบสีดำปนเป็นทางยาวพาดจากใต้คอลงถึงหน้าอก รูปร่างของปากมีลักษณะเป็นจะงอยหนาเหมาะสำหรับการจิก และกระเทาเมล็ดธัญพืช
  • ลักษณะลำตัว และสีของนกกระจอกบ้านที่พบจะมีลักษณะเหมือนนกกระจอกใหญ่ (Passer domestricus) ซึ่งบางครั้งมักพบอาศัยอยู่รวมกันทำให้สังเกตความแตกต่างได้ยาก แต่สามารถแยกแยะได้ที่ขนาดลำตัวของนกกระจอกบ้านจะมีขนาดเล็กกว่านกกระจอกใหญ่ และบริเวณแก้มของนกกระจอกบ้านจะมีสีดำ ส่วนนกกระจอกใหญ่จะไม่มี ช่วงต่อระหว่างคอกับอกมีสีดำที่เล็กกว่านกกระจอกใหญ่ โดยเพศของนกกระจกบ้านทั้งเพศผู้ และเพศเมียมีลักษณะไม่แตกต่างกัน ส่วนเพศของนกกระจอกใหญ่จะมีลักษณะแตกต่างกัน โดยเพศผู้ที่ส่วนบนสุดของหัวจะมีสีเทา ช่วงต่อระหว่างคอกับอกมีสีดำ ส่วนเพศเมียด้านบนสุดของหัวมีสีน้ำตาล ช่วงต่อระหว่างคอกับอกมีสีดำเหมือนกัน
  • แหล่งอาศัย
    นกกระจอกบ้าน เป็นนกที่สามารถปรับตัวเข้ากับคน และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ดี เช่น เมื่อสภาพแวดล้อม และพฤติกรรมมนุษย์เปลี่ยนแปลงไป พบว่านกชนิดอื่นบางชนิดจะไม่สามารถอาศัยในแถบชุมชนได้จำเป็นต้องอพยพไปอาศัยในแหล่งที่อยู่ใหม่ แต่ว่า นกกระจอกบ้านยังสามารถอาศัยอยู่บริเวณเดิมได้อย่างปกติ
  • นกกระจอกบ้านมักทำรังตามต้นไม้ รอบชุมชนหรือบ้านเรือนที่มีช่องลมหรือช่องว่างของบ้าน และมักบินหาอาหารเป็นคู่ๆ ส่วนการหาอาหารในบางพื้นที่นอกชุมชน เช่น พื้นที่ไร่ นาข้าว หรือทุ่งหญ้า มักพบนกกระจอกบ้านบินหาอาหารรวมกันเป็นฝูงใหญ่
  • การหาอาหาร และแหล่งอาหาร
    อาหารของนกกระจอกบ้านที่สำคัญจะเป็นเมล็ดธัญพืชทุกชนิดที่ไม่มีพิษ โดยเฉพาะเมล็ดข้าวที่สามารถหากินได้ง่ายตามไร่นา จึงถือว่า นกกระจอกบ้านเป็นนกศัตรูข้าวที่สำคัญชนิดหนึ่งของชาวนา นอกจากเมล็ดธัญพืชแล้วยังมีอาหารชนิดอื่น เช่น หนอน และแมลงขนาดเล็กที่ไม่มีพิษ
  • พฤติกรรมการกินอาหารจะแย่งกัน ในทิศทางที่ไม่แน่นอนตามแหล่งของหาอาหารที่กระจัดกระจาย เมื่อมีสิ่งรบกวนหรือมีภัยเข้าใกล้ตัวจะบินหนีรวมกันเป็นฝูง
  • การผสมพันธุ์ และการทำรัง
    ฤดูผสมพันธุ์ของนกกระจอกบ้านจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ตัวผู้จะทำตัวเป็นจุดเด่น ยืนหัวตั้งตรงเป็นสง่ามีการสั่นปีก และหางยกขึ้น เพื่อดึงดูดตัวเมีย ส่วนตัวเมียจะมีพฤติกรรมอ่อนตัวอยู่ใกล้ตัวผู้ และร้องเสียงเบาๆ ทรี ทรี ทรี  เพื่อยอมรับการผสมพันธุ์ของตัวผู้
  • การทำรังของนกกระจอกบ้าน มักทำรังตามต้นไม้หรือช่องว่างตามบ้านเรือนทั่วไป รังมีลักษณะไม่ปราณีต เป็นทรงกลม ห่อหุ้มมิดชิด มีช่องเข้าออกขนาดพอดีตัว 1 ช่อง  วัสดุที่ใช้ทำรังจะเป็นหญ้าสดหรือหญ้าแห้ง กิ่งไม้ขนาดเล็ก และขนนก ที่หาได้ง่ายใกล้แหล่งทำรัง
  • การวางไข่ของนกกระจอกบ้าน จะวางไข่ประมาณ 2-8 ฟอง แต่ส่วนใหญ่มักพบมีประมาณ 5 ฟอง และในจำนวนนี้จะฟักออกมาเป็นตัวอ่อนประมาณ 2-3 ฟอง เท่านั้น โดยมีการกกไข่ช่วยกันทั้งเพศผู้ และเพศเมีย ระยะเวลาการกกไข่ประมาณ 10-14 วัน ใน 1 ปี จะวางไข่ประมาณ 2-4 ครั้ง เมื่อไขฟักออกมา พ่อแม่นกกระจอกบ้านจะขนเปลือกไข่ทิ้งออกนอกรังหรือบางครั้งอาจพบการจิกกินเป็นอาหาร ส่วนลูกนกที่ออกจากไข่ครั้งแรกจะไม่มีขน และจะได้รับอาหารจากพ่อแม่นกจนมีอายุได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงสามารถบินออกจากรังได้
  • ประโยชน์ของนกกระจอกบ้าน ก็ยังมีประโยชน์เหมือนกันนะครับ
    – เป็นนกที่คอยจับกินแมลงศัตรูพืชในแปลงเกษตรได้ดี
    – สามารถจิกกินเศษอาหารขนาดเล็กทำให้เกิดความสะอาดในสถานที่ต่างๆ
    – ในบางพื้นที่มีการนำนกกระจอกมาประกอบอาหาร
  • ผลเสียต่อมนุษย์
    – เป็นนกที่จัดเป็นศัตรูทางการเกษตรชนิดหนึ่ง เนื่องจากชอบจิกกินเมล็ดธัญพืชในแปลงเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด งา ถั่ว เป็นต้น
    – ชอบทำรังตามซอกภายในบ้านทำให้เกิดความสกปรกและรกรุงรัง รวมถึงเป็นแหล่งล่อสัตว์มีพิษเข้าบ้าน เช่น งู รวมถึงสัตว์อื่นที่กินไข่หรือตัวนกกระจอกเป็นอาหาร
    – ชอบถ่ายอุจจาระตามพื้นที่ต่างๆทำให้เกิดความสกปรก
    – ชอบส่งเสียงร้องดังจนทำให้เกิดความรำคาญ

บทความอื่นๆ

เชื้อโรคจากนกพิราบ

เชื้อโรคจากนกพิราบ

วิธีไล่นกพิราบ

วิธีไล่นกพิราบ

นกพิราบทำรังบนหลังคา

นกพิราบทำรังบนหลังคา

ตาข่ายกันนกคอนโด

ไล่นกพิราบคอนโด

วิธีไล่นกกระจอก

วิธีไล่นกกระจอก

วิธีไล่นกในนาข้าว

วิธีไล่นกในนาข้าว

นิสัยของนกพิราบ

ทำความรู้จักนกพิราบ

นกกระจอก

ทำความรู้จักนกกระจอก